เมื่อคุณเข้ามาที่หอภาพยนตร์ไทย สิ่งแรกที่คุณจะได้เห็นคือ เมืองมายา นิทรรศการกลางแจ้งซึ่งพาไปสำรวจประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ยุคต้น มายา เป็นคำจากภาษาฮินดี แปลว่า ภาพลวงตา, เวทมนตร์ หรือบางครั้งอาจจะหมายถึง ความเมตตาและความรัก หลังจากฝึกงานที่นี่ครบ 6 เดือน ฉันสามารถกล่าวได้อย่างมั่นใจว่า หอภาพยนตร์ของไทยนั้นเป็นหอภาพยนตร์ที่เปี่ยมล้นไปด้วยจิตวิญญาณของ มายา
ฉันเป็นนักศึกษาญี่ปุ่น ระดับปริญญาโท ชั้นปีที่ 2 ในหลักสูตรการอนุรักษ์และการจัดการคลังภาพยนตร์และภาพนิ่ง มหาวิทยาลัย Toronto Metropolitan หนึ่งในองค์ประกอบหลักของหลักสูตรคือการฝึกงานภาคบังคับ อันเป็นแหล่งที่มาของความรู้พื้นฐานที่จะใช้ทำวิทยานิพนธ์ปริญญาโท ฉันเลือกหอภาพยนตร์ของไทย เพราะความสนใจเรื่องการอนุรักษ์ภาพเคลื่อนไหวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ก่อนหน้านี้ฉันเคยทำงานที่หอภาพยนตร์แห่งชาติญี่ปุ่นอยู่ 5 ปี ตลอดช่วงเวลานั้นฉันมักรู้สึกว่า ฝั่งอเมริกาเหนือและยุโรปยังคงเป็นผู้นำในด้านนี้ ทำให้ฉันคำนึงถึงความสำคัญในการร่วมมือกันระหว่างประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย นอกจากนั้น สภาพอากาศร้อนชื้นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างมากต่อการอนุรักษ์สื่อภาพเคลื่อนไหว และฉันก็อยากเห็นด้วยตาตัวเองว่า หอภาพยนตร์ในภูมิภาคนี้จัดการกับความท้าทายดังกล่าวอย่างไร ฉันเริ่มต้นฝึกงานในกลางเดือนมกราคม 2568 ในส่วนงานอนุรักษ์ไฟล์ดิจิทัล โดยเน้นไปที่การแปลงสัญญาณเทปแม่เหล็กเป็นไฟล์ดิจิทัล อันเป็นงานที่ฉันเจาะจงขอไป ฉันรู้สึกขอบคุณหอภาพยนตร์ที่ได้ให้คอลเลกชันที่น่าสนใจ นั่นคือ เทปวีดิทัศน์ 42 ม้วน ของ ทวีศักดิ์ วิรยศิริ ช่างถ่ายหนังข่าวคนสำคัญ อันประกอบไปด้วย หนังบ้าน, หนังที่แปลงสัญญาณจากฟิล์ม และบันทึกภาพจากโทรทัศน์ ตอนแรกนั้นฉันคิดว่ากระบวนการนี้จะใช้เวลาอย่างรวดเร็ว แต่ไม่นานฉันก็พบว่าเทปแต่ละม้วนต่างมีขั้นตอนและวิธีจัดการเฉพาะตัว รวมทั้งมีความท้าทายหลายอย่างที่คาดไม่ถึง เช่น บางครั้งเทปที่มีความเสียหายอาจขาดระหว่างการกรอด้วยมือ หรือภาพและเสียงอาจไม่ตรงกัน ซึ่งต้องใช้มือซ่อมแซมแก้ไขอย่างพิถีพิถัน ในปัจจุบันนั้นเทปแม่เหล็กล้าสมัยไปแล้ว การแปลงสัญญาณเป็นไฟล์ดิจิทัลจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเก็บรักษาภาพเคลื่อนไหวที่เทปเหล่านี้บันทึกไว้ ต่างจากฟิล์มที่เราสามารถดูภาพได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องฉาย แต่เทปแม่เหล็กต้องใช้อุปกรณ์เครื่องเล่นเทป ทำให้การแปลงไฟล์ดิจิทัลเป็นหนทางเดียวที่จะอนุรักษ์บันทึกภาพเคลื่อนไหวบนเทปแม่เหล็ก และเมื่อใดก็ตามที่เกิดปัญหาขึ้น เจ้าหน้าที่ของหอภาพยนตร์ก็พร้อมจะช่วยเหลือ รวมทั้งแบ่งปันความรู้และข้อมูลเชิงลึกอย่างใจกว้างให้แก่ฉัน
แต่เดิมวิทยานิพนธ์ของฉันจะเน้นที่คอลเลกชันของทวีศักดิ์ แต่ฉันตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าข้อจำกัดทางภาษาไทยของฉันนั้นเป็นอุปสรรคสำคัญ ในเวลาเดียวกัน ขณะที่ฉันได้สำรวจคอลเลกชันนี้อย่างลึกซึ้ง ฉันก็เริ่มสังเกตเห็นประเด็นที่สำคัญกว่าเกี่ยวกับระบบการจัดทำทะเบียนสื่อของหอภาพยนตร์ ทะเบียนสื่อภาพเคลื่อนไหวเหล่านี้มีเพียงในรูปแบบเอกสารตาราง Excel หลายชุด ซึ่งก่อให้เกิดความไม่สม่ำเสมอและขาดการเชื่อมโยงระหว่างชุดข้อมูล Metadata ทั้งภายในและภายนอกกลุ่มงานฉันจึงเริ่มอยากรู้ว่าแนวทางการทำทะเบียนสื่อเหล่านี้ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างไรในช่วงที่ผ่านมา และสามารถพัฒนาได้อย่างไร สิ่งนี้ทำให้ฉันเปลี่ยนหัวข้อวิทยานิพนธ์เป็น “การจัดทำคู่มือสำหรับทะเบียนสื่อภาพเคลื่อนไหวของหอภาพยนตร์” โดยศึกษาประวัติการจัดทำทะเบียนสื่อของหอภาพยนตร์ ศึกษาคู่มือการจัดทำทะเบียนของหลายประเทศ และเสนอแแบบจำลองลำดับขั้นสามระดับ เพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการพัฒนาการจัดทำทะเบียนสื่อของหอภาพยนตร์ในอนาคต

จากทั้งงานที่ต้องลงมือปฏิบัติและงานค้นคว้าเชิงวิชาการ ฉันรู้สึกซาบซึ้งใจต่อความเอื้อเฟื้อของทุกคนในหอภาพยนตร์ พวกเขารับฟังคำถามฉันอย่างอดทน กรุณาให้คำแนะนำ และสละเวลามาช่วยฉันหาข้อมูลและสื่อวัสดุต่าง ๆ อย่างเต็มที่
ย้อนกลับไปยังความคิดแรกที่ฉันกล่าวไว้ตอนต้น ความประทับใจที่มีต่อหอภาพยนตร์นั้นช่างสอดคล้องต่อคำอธิบายของคำว่า มายา ความอบอุ่น ความเปิดกว้าง ความมีน้ำใจ และความมีเมตตาของทุกคนช่างน่าอัศจรรย์ แม้จะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอ่ยถึงสถานที่ในหอภาพยนตร์ที่ฉันรักได้ครบ ฉันขอกล่าวถึงสองที่โปรดที่สุดของฉัน ที่แรกคือโรงอาหาร ซึ่งประดับประดาไปด้วยภาพจิตรกรรมที่สวยงาม เป็นที่ที่ผู้มาเยือนทุกวัยและบรรดาเจ้าหน้าที่เข้ามากินข้าวและพักผ่อน บรรยากาศอันอบอุ่นและเป็นกันเอง ทำให้ฉันรู้สึกถึงหัวใจและจิตวิญญาณของหอภาพยนตร์อยู่เสมอ
อีกที่หนึ่งคือบันไดไม้ระหว่างชั้นสองและชั้นสาม ซึ่ง ยานอวกาศแห่งบ้านนาบัว ของ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล จอดพักอยู่อย่างเงียบ ๆ ฉันมักจะใช้เวลาว่างยามบ่ายที่นี่ นั่งพักที่ม้านั่ง ทำสมาธิอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางสายลมอ่อนและเสียงธรรมชาติรายล้อม ราวกับอยู่ในความฝัน

ภาพ: นัทสึมิกับทีมหอภาพยนตร์, เจแปนฟาวน์เดชั่น และมาซายูกิ อุเอดะ โปรแกรมเมอร์จากญี่ปุ่น
ฉันรู้สึกชื่นชมจิตวิญญาณของหอภาพยนตร์อย่างลึกซึ้ง ในการต้อนรับผู้มาเยือนและเปิดโอกาสให้พวกเขาได้สัมผัสกับพลังแห่งภาพยนตร์หลากหลายรูปแบบ ดั่งกับมีเวทมนตร์จริง ๆ ฉันจะไม่มีวันลืมสิ่งที่ได้รับจากหอภาพยนตร์ ฉัน ไม่สามารถ ลืมมันได้เลย ในวันข้างหน้าเมื่อใดก็ตามที่ต้องเผชิญกับความท้าทาย ฉันจะหวนนึกถึงช่วงเวลาเหล่านั้นและเก็บเกี่ยวความเข้มแข็งจากมัน ฉันตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะกลับไปประเทศไทยและไปเยือนหอภาพยนตร์อีกครั้ง (ฉันว่าจะเรียนภาษาไทยด้วย!) พัฒนาการของหอภาพยนตร์ตลอดสี่ทศวรรษที่ผ่านมาช่างน่าทึ่ง และฉันก็ตื่นเต้นที่จะได้เป็นประจักษ์พยานการพัฒนาที่จะเกิดขึ้นในปีต่อ ๆ ไป
ขอบคุณทุกคนจากก้นบึ้งของหัวใจสำหรับทุก ๆ สิ่งค่ะ
_______________________
นัทสึมิ โยชิดะ เขียน
พุทธพงษ์ เจียมรัตตัญญู แปล
ภาพปก: นัทสึมิ โยชิดะ กับเพื่อนร่วมงานอนุรักษ์ดิจิทัลที่หอภาพยนตร์
ที่มา: จดหมายข่าวหอภาพยนตร์ ฉบับที่ 89 ประจำเดือนกันยายน - ตุลาคม 2568