หลุมศพที่ลือไซต์

ความยาว 29.35 นาที

ฟิล์ม 16 มม. / ขาว-ดำ / เสียง 

อำนวยการสร้าง บริษัท เอสโซ่ แสตนดาร์ดประเทศไทย จำกัด

กำกับ สมบูรณ์ วิรยศิริ


หลุมศพที่ลือไซต์ เป็นตอนหนึ่งของรายการภาพยนตร์สารคดีอายุอานามกว่า 50 ปี ชุดมรดกของไทย ซึ่งเป็นรายการสารคดีทางโทรทัศน์รายการแรก ๆ ของโทรทัศน์โดยคนไทยเป็นผู้สร้าง โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กำกับโดย สมบูรณ์ วิรยศิริ นักทำสารคดีคนสำคัญของไทย ออกอากาศเป็นประจำ ทางช่อง 4 บางขุนพรหม ทุกคืนวันพุธ ตอนละครึ่งชั่วโมง เริ่มออกอากาศเป็นครั้งแรกราวปี พ.ศ. 2505 และออกอากาศต่อเนื่องยาวนานร่วม 10 ปี มรดกของไทยเป็นรายการภาพยนตร์สารคดีเชิงท่องเที่ยวที่ว่าด้วยเรื่องประวัติศาสตร์ โบราณคดี วัฒนธรรม ประเพณี อัตชีวประวัติบุคคลสำคัญของไทย ศิลปกรรม ผลงานการสร้างสรรค์ของสมบูรณ์ วิรยศิริ ผู้คร่ำหวอดในวงการโทรทัศน์ เป็นผู้เขียนบทและกำกับรายการ โดยส่วนใหญ่ไม่มีการบันทึกเสียงลงในฟิล์มภาพยนตร์ แต่ใช้วิธีการบรรยายสดในขณะที่ออกอากาศ และบรรยายโดยมานิตย์ รักษ์สุวรรณ อำนวยการสร้างโดยวิสิษฐ์ ตันสัจจา เมื่อหอภาพยนตร์เริ่มดำเนินงานในปีแรก ๆ ได้รับฟิล์มภาพยนตร์สารคดีชุดมรดกของไทย และได้ทำการอนุรักษ์และแปลงสัญญาณฟิล์มภาพยนตร์ไว้บางส่วน หลุมศพที่ลือไซต์ เป็นหนึ่งในบรรดาฟิล์มภาพยนตร์สารคดีชุดนี้ ออกฉายเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2505


มรดกของไทยได้เดินทางไปกับคณะนักโบราณคดีไทยที่ไปบันทึกการขุดค้นแหล่งโบราณคดีที่บ้านเก่า จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเมื่อ 2 – 3 ปี ก่อนหน้านี้ ได้มีการสำรวจและพบแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์กระจายตัวอยู่หลายแห่งในจังหวัดกาญจนบุรี โดยการขุดค้นในครั้งนี้ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลเดนมาร์คและสยามสมาคม ร่วมทำการสำรวจกับนักสำรวจฝ่ายไทย สมบูรณ์ วิรยศิริ ได้ติดตามคณะสำรวจตั้งแต่คณะออกจากกรุงเทพ ก่อนจะพาผู้ชมไปแหล่งขุดค้นสำคัญสองแห่ง คือ “บางไซต์” และ “ลือไซต์” ตามชื่อของ นายบาง เหลืองแตง และนายลือ เหลืองแตง คนเก่าแก่ของตำบลบ้านเก่าซึ่งพบหลักฐานทางโบราณคดี นอกจากนี้รายการยังได้บันทึกขั้นตอนการขุดค้นโดยเหล่านักศึกษาคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากรอย่างละเอียด เห็นถึงการตั้งออฟฟิศ บริเวณโดยรอบของแหล่งขุดค้น การขุดค้นซึ่งทำอย่างประณีต เสน่ห์ของรายการภาพยนตร์สารคดีชุดนี้คือ การเก็บเกี่ยวภาพสิ่งละอันพันละน้อยตลอดการเดินทางไม่ว่าจะไปจังหวัดหรืองานใดก็ตาม ซึ่งกลายเป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์ร่วมสมัยด้วยลีลาการเล่าเรื่องอย่างเพลิดเพลินของสมบูรณ์ วิรยศิริ