ฟิล์ม 35 มม. / สี / เสียง / ความยาว 120 นาที
วันออกฉาย 27 มกราคม พ.ศ. 2522
บริษัทสร้าง โคลีเซี่ยมฟิล์ม - พี.ดี.โปรโมชั่น
ผู้อํานวยการสร้าง พรพิมล มั่นฤทัย, ไพจิตร ศุภวารี
ผู้กํากับ คมน์ อรรฆเดช
ผู้เขียนบท ส. อาสนจินดา จากบทประพันธ์ของ หยก บูรพา
ผู้ถ่ายภาพ มนู วรรณายก
ผู้ลำดับภาพ มนู วรรณายก
ผู้กำกับศิลป์ อ้วน - พงษ์ - พันธ์
ผู้ทำดนตรีประกอบ มนตรี อ่องเอี่ยม
ผู้แสดง สรพงศ์ ชาตรี, อี้หมิง, ทาริกา ธิดาทิตย์, มานพ อัศวเทพ, มาลี
เวชประเสริฐ, สุประวัติ ปัทมสูต, ด.ช.สราวุฒิ แซ่ลิ้ม, ด.ช.ณัฐพันธ์ ตรีเมฆ, ด.ญ.จอย จินดานุช, ด.ญ.ศิริเพ็ญ บางยี่ขัน, ด.ช.สมเกียรติ หงสกุล, สายพิณ จินดานุช, สมศักดิ์ ชัยสงคราม, เทพ โพธิ์งาม, ศรินทิพย์ ศิริวรรณ, เบญจวรรณ แซ่ตัน, พิราวรรณ ประสพศาสตร์, สมชาย สามิภักดิ์, จรูญ สินธุเศรษฐ์, ชาย มีคุณสุต, ธง ยอดธง, นภาพร หงสกุล, สายจรัส สินจารุ, สาวิตรี ศรีอรทัย
นวนิยายเรื่อง “อยู่กับก๋ง” เป็นผลงานเรื่องแรกในนามปากกา “หยก บูรพา” ของ เฉลิมศักดิ์ รงคผลิน ซึ่งเริ่มเขียนลงในนิตยสารฟ้าเมืองทอง ที่เพิ่งเริ่มเปิดตัวในปี พ.ศ. 2519 โดยขณะนั้นเขาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยบรรณาธิการนิตยสารฟ้าเมืองไทยให้ อาจินต์ ปัญจพรรค์ เมื่ออาจินต์ได้มารับหน้าที่เป็นบรรณาธิการนิตยสารฟ้าเมืองทองอีกหนึ่งฉบับ เฉลิมศักดิ์จึงได้รับการชักชวนจากอาจินต์ให้มาเขียนเรื่องลงในนิตยสารฉบับใหม่นี้

เนื้อหาของ “อยู่กับก๋ง” เป็นการนำประสบการณ์ในวัยเด็กของผู้เขียนขณะอาศัยอยู่อย่างยากจนกับก๋งชราชาวจีนในห้องแถวเก่า ๆ เมื่อราวยี่สิบปีก่อนหน้านั้น มาดัดแปลงและถ่ายทอดเป็นตอน ๆ ก่อนจะได้รับการตีพิมพ์รวมเล่มในปลายปี พ.ศ. 2519 และได้รางวัลดีเด่นจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ รวมทั้งได้รับเลือกให้เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ทำให้วรรณกรรมเรื่องนี้เป็นที่รู้จักในสังคมไทย
อย่างกว้างขวาง

ปี พ.ศ. 2521 บริษัทภาพยนตร์ โคลีเซี่ยมฟิล์ม ของ พรพิมล มั่นฤทัย และ พี.ดี.โปรโมชั่น ของ ไพจิตร ศุภวารี ได้ร่วมกันนำนวนิยายเรื่องนี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์ กำกับโดย คมน์ อรรฆเดช นักแสดงและผู้กำกับที่มีชื่อเสียงโดดเด่นในด้านการสร้างภาพยนตร์แอ็คชัน ผลงานเรื่องนี้นับเป็นภาพยนตร์แนวชีวิตเรื่องแรกและเรื่องเดียวที่เขากำกับ

ในขณะที่ผู้รับหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์คือ ส. อาสนจินดา ซึ่งได้รับคำชมว่า สามารถกลั่นกรองและถ่ายทอดเนื้อหาออกมาได้อย่างกระชับ ลงตัว รวมถึงรักษารสชาติของบทประพันธ์ต้นฉบับไว้ได้เป็นอย่างดี แม้ตัวนวนิยายนั้นจะมีลักษณะแบ่งเป็นตอนสั้น ๆ มีตัวละครและปมปัญหาที่แตกต่างหลากหลาย อันยากต่อการเล่าในรูปแบบภาพยนตร์เรื่องยาว

ผู้รับบทเป็น ก๋ง ในภาพยนตร์คือ อี้หมิง ดาราไต้หวันที่มีผลงานจำนวนมากและมีชื่อเสียงโด่งดังในระดับสากล โดยเฉพาะจากบทเปาบุ้นจิ้น เขารับแสดงเรื่องนี้เพราะประทับใจในบทภาพยนตร์และบุคลิกของตัวละครที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาธรรม รวมทั้งรอบรู้เท่าทันโลกและชีวิต ในขณะนั้นอี้หมิงมีอายุราว 48 ปี แต่สามารถแปลงโฉมและสวมวิญญาณเป็นก๋งผู้ชราภาพได้อย่างประทับใจ หยก บูรพา ผู้รังสรรค์ตัวละครนี้ขึ้นมาจากความทรงจำส่วนตัว

ภาพยนตร์ออกฉายเป็นโปรแกรมต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ปี พ.ศ. 2522 ซึ่งปรกติมักจะเป็นโปรแกรมใหญ่สำหรับหนังที่ทำเพื่อเอาใจตลาด แต่ อยู่กับก๋ง มีลักษณะที่แตกต่างออกไป แม้จะมีดาราไทยที่มีชื่อเสียงร่วมแสดงเป็นตัวละครหลายชีวิต แต่บทบาทเด่นนั้นอยู่ที่ตัวละครก๋งและหลานชาย รวมทั้งเน้นน้ำหนักไปที่คุณธรรมและเนื้อหาอันกินใจ มากกว่าการขายนักแสดงหรือพล็อตเรื่องที่หวือหวาตามแนวตลาดนิยม
อยู่กับก๋ง ยังมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในด้านการนำเสนอภาพชีวิตของคนจีนรุ่นเสื่อผืนหมอนใบ ในช่วงทศวรรษ 2490 ที่อพยพมาตั้งรกรากในเมืองไทย โดยทั้งบทประพันธ์ต้นฉบับและตัวภาพยนตร์ได้มุ่งถ่ายทอดให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างชาวไทยและชาวจีนที่อยู่ร่วมกันในชุมชน และพยายามเชื่อมความเข้าใจซึ่งกันและกัน เนื่องจากในขณะนั้นยังมีช่องว่างระหว่างคนสองกลุ่มอยู่มาก มีบทวิจารณ์ภาพยนตร์ในยุคนั้นกล่าวว่า ความรู้สึกของก๋งในเรื่องที่บอกว่าตนเป็นคนจีนซึ่งเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารและรักแผ่นดินไทยนั้น ถือได้ว่าเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่คนจีนให้คนไทยในวาระตรุษจีน และ อยู่กับก๋ง ก็คือของขวัญในรูปแบบภาพยนตร์ที่คนไทยให้แก่คนจีนในวาระเดียวกัน