สื่อดิจิทัล / สี / เสียง / ความยาว 127 นาที
วันออกฉาย 4 เมษายน พ.ศ. 2567
บริษัทสร้าง GDH 559
ผู้อํานวยการสร้าง วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์, จิระ มะลิกุล
ผู้กํากับ พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์
ผู้เขียนบท ทศพล ทิพย์ทินกร, พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์
ผู้กํากับภาพ บุณยนุช ไกรทอง
ผู้ลำดับภาพ ธรรมรัตน์ สุเมธศุภโชค
ผู้ออกแบบงานสร้าง พัชร เลิศไกร
ผู้กำกับศิลป์ ธรรศนัยน์ เลิศไกร
ผู้ทำดนตรีประกอบ ใจเทพ ร่าเริงใจ
ผู้แสดง พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล, อุษา เสมคำ, สัญญา คุณากร, สฤญรัตน์ โทมัส, พงศธร จงวิลาส, ต้นตะวัน ตันติเวชกุล, ดวงพร โออภิรัตน์, ฮิมาวาริ ทาจิริ, วัฒนะ สรรพกิจ, สุมาลี สุธีรธรรม, ปัชชุน หิรัญประทีป, พิชัย พรหมเมศร์, บุปผา สุทธิสานนท์
หลานม่า เป็นผลงานภาพยนตร์ของบริษัท GDH 559 ที่มีจุดเริ่มต้นมาจาก ทศพล ทิพย์ทินกร คนเขียนบทภาพยนตร์หลายเรื่องให้แก่บริษัทต้องการนำประสบการณ์ส่วนตัวซึ่งต้องกลับไปดูแลอาม่าผู้มีอายุต่างกันหลายสิบปีมาถ่ายทอด แนวคิดนี้สร้างความประทับใจให้แก่สองผู้อำนวยการสร้างของบริษัท วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ และ จิระ มะลิกุล ซึ่งได้เข้ามาช่วยพัฒนาบท และได้คนทำหนังรุ่นใหม่ พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ มารับหน้าที่กำกับภาพยนตร์เรื่องยาวเป็นเรื่องแรก

ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวผ่านตัวละครหลักสองคนในครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีนคือ เอ็ม หนุ่มวัยรุ่นผู้รับอาสาไปดูแลอาม่าวัยชราผู้ถูกตรวจพบว่าป่วยเป็นมะเร็ง เพื่อหวังจะได้รับมรดกหลักล้านเมื่ออาม่าเสียชีวิต แต่ระหว่างที่อาศัยอยู่ร่วมกัน เขากลับค่อย ๆ ได้เรียนรู้ถึงสิ่งสำคัญที่มีคุณค่ามากกว่าเงินทอง ท่ามกลางลูก ๆ ของอาม่าที่แวะเวียนมาหา ซึ่งต่างมีวิถีชีวิตและปัญหาส่วนตัวแตกต่างกันออกไป

หลานม่า ออกฉายในปี พ.ศ. 2567 ช่วงเดือนเมษายน อันเป็นเดือนที่สังคมไทยให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัวเป็นพิเศษ ผ่านเทศกาลสงกรานต์ที่ทุกคนมักกลับมาอยู่รวมกันพร้อมหน้า ทั้งมีวันครอบครัว วันผู้สูงอายุ แทรกอยู่ระหว่างนั้น ในช่วงเวลาดังกล่าว หลานม่า ได้สร้างปรากฏการณ์ดึงดูดให้ผู้คนทุกรุ่นต่างพาครอบครัวกันไปชมภาพยนตร์ และเกิดเป็นกระแส “น้ำตาท่วมโรง” ที่มาจากความซาบซึ้งประทับใจในเนื้อเรื่อง นอกจากนี้ หลานม่า ยัได้ไปออกฉายในอีกหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่ภาพยนตร์ไทยจะได้ฉายเข้าโรงที่นั่น ทั้งยังได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจากผู้ชมต่างชาติและประสบความสำเร็จทำรายได้รวมทั่วโลกกว่า 2,000 ล้านบาท อันถือเป็นสถิติใหม่ของภาพยนตร์ไทย

ยิ่งไปกว่านั้น หลานม่า ยังสร้างประวัติศาสตร์หน้าสำคัญ คือการผ่านเข้ารอบ 15 เรื่องสุดท้าย ในการชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม ซึ่งไม่เคยมีภาพยนตร์ไทยเรื่องไหนสามารถทำได้มาก่อน นอกเหนือไปจากการกวาดรางวัลสำคัญทั้ง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, สำดับภาพยอดเยี่ยม, นักแสดงนำชายและหญิงยอดเยี่ยม ฯลฯ บนเวทีประกวดรางวัลภาพยนตร์ในประเทศไทยหลายสถาบัน ทั้งยังสร้างอิทธิพลให้เกิดการตามรอยโลเคชันถ่ายทำภาพยนตร์ที่ตลาดพลู ตลอดจนเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อจากประชาชนให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติมากที่สุด เมื่อหอภาพยนตร์เปิดรับรายชื่อในปี พ.ศ. 2568
หลานม่า จึงถือเป็นภาพยนตร์ไทยแห่งศักราชอย่างแท้จริง ในขณะเดียวกัน ยังโดดเด่นในด้านการวาดภาพครอบครัวไทยเชื้อสายจีนร่วมสมัยที่ยังยึดมั่นกับธรรมเนียมดั้งเดิม ควบคู่ไปกับการกล่าวถึงความแตกต่างทางความคิด ความฝัน ความทะเยอทะยานทางเศรษฐกิจของสมาชิกครอบครัวที่ครอบคลุมตั้งแต่รุ่น Baby Boomers ไปจนถึง Gen Z ตลอดจนได้ถ่ายทอดความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานในกลุ่มเครือญาติ การธำรงรักษาชาติพันธุ์ที่ถูกท้าทาย และการรุกคืบของทุนนิยม ซึ่งเต็มไปด้วยความซับซ้อนชวนขบคิด นอกจากนี้ภาพยนตร์ยังพูดถึงสังคมผู้สูงวัย อันเป็นภาวะโครงสร้างทางสังคมที่น่าเป็นห่วงของไทย และเป็นประเด็นที่ไม่ค่อยได้รับการกล่าวถึงในหนังไทย รวมทั้งใช้ตัวละครสูงวัยเป็น “นางเอก” ซึ่งไม่ใช่แนวทางโดยทั่วไป แต่กลับสามารถทำงานได้ผลกับผู้ชมทุกเพศ ทุกวัย และทุกพื้นที่