ยวงพร พงษ์ประดิษฐ์

ดาวดวงที่ 91

ชื่อในการแสดง ยวงพร พงษ์ประดิษฐ์

ชื่อ-นามสกุลจริง บุญยวง แสงสุข

วันเกิด 1 ตุลาคม พ.ศ. 2473

พิมพ์มือลานดารา 15 ตุลาคม พ.ศ. 2552

 

ยวงพร มีชื่อเล่นว่า น้อย เกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ เหตุที่ได้เข้าวงการภาพยนตร์นั้น เนื่องจากเมื่อประมาณปี 2496 ขณะไปยืนอยู่หน้าโรงภาพยนตร์ศรีนครพิงค์เพื่อรอรถจักรยานสองล้อที่น้องยืมมาชมภาพยนตร์ ก็มีคนมาเชิญไปที่ห้องผู้จัดการโรงภาพยนตร์บอกว่า สนใจจะพาไปแสดงภาพยนตร์ให้กับคุณวิรัช พึ่งสุนทร แห่งโยคีสถานสี่พระยา ซึ่งขณะนั้นนำภาพยนตร์มาเข้าโรงฉายพอดี ยวงพรตอบตกลง แต่พอถึงกำหนดเดินทาง ก็ไปไม่ได้เพราะต้องเฝ้าไข้น้องสาวซึ่งป่วยหนัก 


ต่อมายวงพรเข้ากรุงเทพฯ มาเรียนเย็บผ้า ก็พอดีกับ ม.จ.ศุกรวรรณดิศ ดิศกุล จะสร้างภาพยนตร์เรื่อง ทางเปลี่ยว และจะหานางเอกที่หน้าตาคล้ายกับเด็กที่แสดงในเรื่อง จึงเรียกยวงพรไปดูตัวและพอใจ ยวงพรจึงได้แสดงเป็นนางเอกครั้งแรกคู่กับ วสันต์ สุนทรปักษิน ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากละครชีวิตของคณะกมลพิศมัย 

 

ทางเปลี่ยว สร้างโดย ปรเมรุภาพยนตร์ ในระบบ 16 มม. แต่ถ่ายแบบ 35 มม. เวลาฉายจึงใช้เลนซ์ขยายช่วยเพื่อให้ภาพบนจอหนังดูเหมือนกับภาพยนตร์ 35 มม.จอกว้าง ซึ่งนับเป็นภาพยนตร์ 16 มม.สโคปเรื่องแรกของไทย ในเรื่องนี้ ยวงพร รับบทเป็น “อัญชลี” เด็กสาวที่เกิดในครอบครัวที่มีปัญหา พ่อแม่หย่ากัน ทิ้งไว้แต่ตุ๊กตาตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่งให้อัญชลี อัญชลีต้องอยู่กับพ่อ ครั้นโตเป็นสาว คุณแม่ซึ่งมีสามีใหม่เป็นนักธุรกิจร่ำรวยและมีลูกติดคนหนึ่ง ก็มารับอัญชลีไปอยู่ด้วยกัน แต่วันชัยลูกติดนั้นมีรุ่นราวคราวเดียวกับอัญชลี ก็แอบชอบอัญชลี พยายามจะหาทางลวนลามอัญชลี ต่อมาอัญชลีได้พบรักกับ “ชาย” ซึ่งแสดงโดย วสันต์ สุนทรปักษิน พระเอกของเรื่อง แต่ก็ถูกคุณแม่กีดกัน อัญชลีจึงตัดสินใจหนีตามกันไป แต่แล้วอัญชลีก็พบความจริงว่า ชายไม่ได้ดีอย่างที่ตนเองคิดไว้ เกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันถึงขั้นเลิกรากันไป อัญชลีเหลือเพียงตุ๊กตาตัวเล็ก ๆ ที่คุณแม่เคยให้ไว้เป็นเพื่อน ครั้นจะกลับไปหาคุณแม่อีก ก็ใจไม่กล้า หนทางนี้ช่างเปล่าเปลี่ยวเสียจริง ๆ อัญชลีตัดสินใจกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย แต่ก็มีคนช่วยไว้ ความทราบถึงชายจึงสำนึกผิดและมารับอัญชลีกลับไปอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข.. ทางเปลี่ยว เข้าฉายครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2498 ที่โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมกรุง


ขณะที่ถ่ายทำเรื่อง ทางเปลี่ยว เสร็จ แต่ยังไม่ทันออกฉายนั้น พระเจ้าวรวงศ์เธอพระเจ้าอนุสรมงคลการและหม่อมอุบลยุคล แห่งวังละโว้ ก็สนใจในตัวของยวงพรและจะขอรับตัวไปแสดงภาพยนตร์เรื่อง วังนางโรม ซึ่งจะต้องเข้าไปอยู่ในวังละโว้ แต่ยวงพรก็อยู่ไม่ได้เพราะต้องกลับไปดูแลคุณแม่ที่เชียงใหม่ ก็เลยไม่ได้แสดงภาพยนตร์เรื่องนั้น


ต่อมาในปี 2500 มีการประกาศรางวัลตุ๊กตาทองครั้งแรกของไทย ภาพยนตร์เรื่อง ทางเปลี่ยว ที่ วสันต์ สุนทรปักษิน แสดงและกำกับไว้ ก็ได้รับรางวัลผู้กำกับตุ๊กตาทองคนแรกของไทย ส่วนยวงพรนั้น ก็ได้แสดงภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งคู่กับ ชนะ ศรีอุบล ในเรื่อง ม่วยในฝัน (2501) จากนั้นก็มีคู่ชีวิตเป็นนายทหาร จึงต้องอำลาวงการภาพยนตร์ไปปิดฉากการแสดงแต่นั้นมา


อย่างไร เมื่อคู่ชีวิตไปราชการต่างประเทศ ฉลอง สิมะเสถียร ผู้จัดละครช่อง 4 บางขุนพรหม ก็มักจะชักชวนให้ยวงพรให้กลับไปแสดงละครโทรทัศน์บ้างเป็นครั้งคราว เช่นเรื่อง รักสุดท้ายของศรีปราชญ์ คู่กับ ส.อาสนจินดา ของคณะไททรรศน์  ค่าน้ำนม ของคณะชื่นชุมนุมศิลปิน