ภูษิต อภิมัน

ดาวดวงที่ 88

ชื่อในการแสดง ภูษิต อภิมัน

ชื่อ-นามสกุลจริง ดิเรก มงคลนัฎ 

วันเกิด -

พิมพ์มือลานดารา 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552


ภูษิต เกิดที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เป็นบุตรคนที่ 8 ของ ยม มงคลนัฏ (หลวงรามภรตศาสตร์) พระเอกภาพยนตร์คนแรกของไทยเรื่อง นางสาวสุวรรณ (2466) ภูษิตเรียนจบชั้นมัธยม 7 ที่โรงเรียนวัดราชบพิธ แล้วไปต่อโรงเรียนเพาะช่าง จบเป็นรุ่นน้องของ สุเทพ วงศ์กำแหง ต่อมา สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ นำภูษิตไปฝากกับระพีพรและเพ็ญศรี พุ่มชูศรี เพื่อให้เป็นนักร้องประจำวงศกุนตลา ซึ่งชื่อ “ภูษิต อภิมัน” นั้น สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์และระพีพร เป็นผู้ตั้งให้ ภูษิตเคยร้องเพลงที่โดเรมีไนท์คลับและยังเข้าทำงานที่แผนกดนตรีของสยามกลการด้วย 


ภูษิต แสดงละครเพลงและละครโทรทัศน์ที่สถานีโทรทัศน์ ช่อง 4 บางขุนพรหม เคยเป็นพระเอกคู่กับกนกวรรณ ด่านอุดม ศิริพร วงศ์สวัสดิ์ นันทวัน เมฆใหญ่ ภูษิตเคยเป็นพระเอกภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง เยี่ยมวิมาน ตามด้วย ล่องไพร ต่อมาปี 2512 ภูษิตได้รับเลือกให้เป็นพระเอกภาพยนตร์เกี่ยวกับการพัฒนาชุมชน เรื่อง ทางชีวิต (ภูษิต-วราภรณ์) ของ สำนักข่าวสารอเมริกันหรือยูซิส สร้างในระบบ 35 มม. ที่มีการบันทึกเสียงสด ๆ ขณะถ่ายทำด้วยเครื่องเสียงอัดยี่ห้อนาก้าซึ่งแตกต่างจากการสร้างภาพยนตร์ในยุคนั้น จึงใช้เวลาถ่ายทำนานปีกว่า 


ในวงการภาพยนตร์นั้น ภูษิตแสดงภาพยนตร์ทั้งระบบ 16 มม.และ 35 มม. เช่นเรื่อง ท่าจีน (2513 สมบัติ-เพชรา) เขยตีนโต (2514 ครรชิต-เพชรา) นพเก้า (2515 ยอดชาย-สุทิศา) ลานสาวกอด (2515 ครรชิต-เพชรา) อเวจีสีชมพู (2515 ครรชิต-พิศมัย) อะไรกันนักหนา (2516 สุทิศา-สายัณห์) ไม้ป่า (2516 ยอดชาย-เพชรา) หนองบัวแดง (2516 สมบัติ-อรัญญา) คุณครูที่รัก (2517 นาท-อรัญญา) คุณหญิงนอกทำเนียบ (2517 สมบัติ-อรัญญา-สุทิศา) โสมสลัว (2517 สมบัติ-อรัญญา) สามปอยหลวง (2517 นัยนา-ไพโรจน์) ตลาดอารมณ์ (2517 สมบัติ-อรัญญา) คืนนี้ไม่มีพระจันทร์ (2518 กรุง-อรัญญา-นัยนา-เปียทิพย์) สาวเจ้าพยัคฆ์ (2518 สรพงศ์-ศศิมา-สุริยา) นักเลงไม่มีอันดับ (2520 กรุง-ภาวนา-ลือชัย-เนาวรัตน์) โตเมืองใต้ (2520 กรุง-อุเทน-นัยนา-เปียทิพย์) ล่า (2520 สมบัติ-อรัญญา-ลลนา) เจ้าป่าบ้าจี้ (2521 กรุง-เสาวนีย์) ล่าทรชน (2521 กรุง-อุเทน-ไพโรจน์) กำนันช้อง (2522 สมบัติ-พิศมัย-เสาวนีย์) พยัคฆ์ทมิฬ (2526 สรพงศ์-อภิรดี-นาท) 


ภูษิต แสดงภาพยนตร์เรื่อง ดวงยิหวา (2529 ไพโรจน์-ใหม่) เป็นพ่อของใหม่ เจริญปุระ เป็นเรื่องสุดท้าย ก่อนที่จะหันไปทำธุรกิจส่วนตัวค้าขายรถยนต์จนปัจจุบัน