ดาวดวงที่ 49
ชื่อในการแสดง ยอดชาย เมฆสุวรรณ
ชื่อ-นามสกุลจริง วิเชียร เมฆสุวรรณ
วันเกิด 25 มิถุนายน พ.ศ. 2485
พิมพ์มือลานดารา 28 มีนาคม พ.ศ. 2552
ยอดชาย มีชื่อเล่นว่า เปี๊ยก เกิดที่จังหวัดสมุทรสาคร เรียนจบชั้นมัธยมจากโรงเรียนทวีธาภิเษก ใฝ่ฝันอยากจะเป็นจิตรกร แต่สอบเข้าเรียนไม่ได้ จึงไปเรียนที่วิทยาลัยการค้าจบมาในปี 2513 แล้วก็เข้าทำงานที่บริษัทบาจา กระทั่ง สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม ดาราตลกอาวุโสไปพบเข้าจึงชักชวนให้มาแสดงภาพยนตร์โดยพาไปรู้จัก โรม บุนนาค ผู้สร้างภาพยนตร์ วิเชียร สงวนไทย ตากล้อง อัมพร ปทีปเสน ซึ่งขณะนั้นอัมพรกำลังมองหาพระเอกใหม่แทน มิตร ชัยบัญชา ที่เพิ่งเสียชีวิต จึงให้ยอดชายแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือ น้ำใจพ่อค้า คู่กับ ดีเสวต นางเอกจากประเทศกัมพูชา ซึ่งกำลังโด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง งูเกงกอง เข้าฉายเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2514 แม้จะเป็นเรื่องแรกและยอดชายยังต้องเล่นเป็นพ่อค้าปั่นสามล้อขายก๋วยเตี๋ยว แต่เพลงที่ยอดชายเร่ร้องขายของก็ทำให้แฟนภาพยนตร์จดจำพระเอกคนนี้ได้แล้ว
ปี 2515 ยอดชายเริ่มแสดงเป็นพระเอกหลายเรื่องเช่น อ้อมอกเจ้าพระยา สวนสน รจนายอดรัก พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ไอ้บ้านนอก นพเก้า คนกล้าตาย ซึ่งในจำนวนนี้ สวนสน ของ ชาลี อินทรวิจิตร และ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ของ พันคำ เป็นภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับยอดชายเพิ่มมากขึ้น ส่วนนพเก้านั้น เป็นภาพยนตร์ที่ยอดชายได้แสดงคิวบู๊ ต่อสู้ฟันดาบเป็นครั้งแรก ปี 2516 ยอดชายจึงได้รับบทพระเอกเพิ่มเป็นเท่าตัวจากเรื่อง วางฟูซาน ยอดชาย แก้วกลางนา ไม้ป่า หนึ่งในดวงใจ แม่นาคพระโขนง อำนาจเงิน แรงรัก แม่นาคอาละวาด เศรษฐีถังแตก เจ้าปลิวสิงห์สุพรรณ จินตะหรา แม่ผัว ซำเหมา ทางสายใหม่ สักขีแม่ปิง ซึ่งการจับคู่กับ สุภัค ลิขิตกุล ในเรื่อง แม่นาคพระโขนง และภาวนา ชนะจิต ในเรื่อง จินตะหรา เป็นที่กล่าวขานถึงมากที่สุด
ปี 2517 ยอดชายได้รับบทพระเอกมากยิ่งขึ้นอีก ส่วนใหญ่จะจับคู่กับ ภาวนา ชนะจิต ตามกระแส เช่นเรื่อง นี่หรือผู้หญิง (ภาวนา) แว่วเสียงลมรัก นางร้อยชื่อ กังหันชีวิต (ภาวนา) ใครจะร้องไห้เพื่อฉัน (ภาวนา) ธิดาพญายม เศรษฐีภูธร อาถรรพณ์สวาท (ภาวนา) รักครั้งแรก (ภาวนา) มนต์รักนางเงือก สนหน่อยน่าทูนหัว แม่ปูเค็ม (ภาวนา) สิงห์ดง (ภาวนา) ทิวาหวาม 4 สีทีเด็ด (ภาวนา) ชายผ้าเหลือง มาลัยเสี่ยงรัก แสบเข้าไปถึงทรวง หนุมานพบ 7 ยอดมนุษย์ (ภาวนา) ด้วยปีกของรัก (ภาวนา) ครั้นปี 2518 จึงเริ่มจับคู่นางเอกอื่น ๆ เช่น สาวแสบ (วาสนา) ฟ้าเปลี่ยนสี (นัยนา) ปล้นครั้งสุดท้าย (รุ้งลาวัลย์) แม่สาย (พิศมัย) รางวัลชีวิตนิสิตที่รัก หนุมานพบ 5 ไอ้มดแดง ตัณหา (วันดี) วิวาห์เงินผ่อน (นัยนา) ชุมทางผี (อรัญญา) ใจรัก (พิศมัย) เศรษฐีรัก สร้อยสวาท (นัยนา) มาหยารัศมี (นาท) สาวสบึมส์ (ลักษมี)
เริ่มจากปี 2519 ยอดชายแสดงประกบพระเอกอื่นมากขึ้น เช่นเรื่อง กามเทพเล่นกล สามสิงห์ดงเสือ จระเข้ฟาดหาง เผาขน รถไฟเรือเมล์ลิเกตำรวจ เพลิงแค้น ฟ้ามิอาจกั้น โอ้ลูกรัก 17 ทหารกล้า ยอดกะล่อน ชะตาชีวิต สายลับกระจับเหล็ก ไผ่กำเพลิง ปี 2520 เช่นเรื่อง เพลิงทะเล ขบวนการ 3 สลึง โอ้มาดา ยอดมนุษย์คอมพิวเตอร์ ผู้ยิ่งใหญ่ชายแดน ไอ้ควายเหล็ก รักไม่รู้ลืม หงส์ทอง แหกค่ายนรกเดียนเบียนฟู นางฟ้าท่าเรือ 9 พยัคฆราช แม้ว่าตั้งแต่ปี 2521 ยอดชายจะพ้นยุคการเป็นพระเอกแล้ว แต่ก็ยังมีงานแสดงเรื่อยมา เช่นเรื่อง พ่อเสือลูกสิงห์ วัยรุ่นจอมคนอง เอ็ม.16 สิงห์เดี่ยวดงนักเลง อีโล้นซ่าส์ ผิดทางรัก เหนือกว่ารัก มือปราบปืนทอง ลูกทุ่งปืนคด บี้+บอด+ใบ้ ไอ้ติงต๊อง ตลุมบอน โป่งกระทิง ปริศนาแห่งหัวใจ หักเหลี่ยมนักเลงปืน ดอกไม้ร่วงที่แม่ริม ชาติหินดินระเบิด มนุษย์ 100 คุก อยุธยาที่ข้ารัก ถล่มแหลมทองคำ หยาดพิรุณ พ่อหม้ายลูกติด ยอดหญิงผู้ยิ่งใหญ่ รักนี้บริสุทธิ์ สุรีย์รัตน์ล่องหน รัศมีแข ฯลฯ
หลังจากนั้น ยอดชายจึงรับงานแสดงละครโทรทัศน์หลายเรื่อง แต่ที่สร้างชื่อเสียงก็คือ ประชาชนชาวแฟลต นอกจากนี้ ยังหันไปเอาดีทางงานประติมากรรมปั้นหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนบุคคลสำคัญและดาราไทย แต่ก็ยังมีผลงานภาพยนตร์และละครโทรทัศน์มาจนปัจจุบัน เช่น บางระจัน (2543) นายขนมต้ม (2546) ฯลฯ
