รอง เค้ามูลคดี

รอง เค้ามูลคดี เกิดเมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2490 เป็นบุตรของ ฉลาด เค้ามูลคดี หัวหน้าคณะลิเก และนักจัดรายการ-ละครวิทยุที่มีชื่อเสียง ผู้ได้รับการเชิดชูเกียรติให้เป็นหนึ่งใน “บุรพศิลปิน” หรือ “ศิลปินผู้ล่วงลับไปแล้วที่ควรค่าแก่การยกย่อง” จากกระทรวงวัฒนธรรม เมื่อกลางปี พ.ศ. 2558


ด้วยสายเลือดศิลปินที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อและแม่ซึ่งเป็นนางเอกลิเก ทำให้เด็กชายรองได้มีโอกาสติดตามคณะลิเกไปแสดงตามงานวัด รวมถึงเล่นละครวิทยุตั้งแต่ตัวยังสูงไม่ถึงไมโครโฟน และในวัยเพียงประมาณ 10 ปี เขาก็ได้ปรากฏตัวบนจอภาพยนตร์เป็นครั้งแรก ในเรื่อง เหนือมนุษย์ (2502) ด้วยบทวัยเด็กของพระเอก มิตร ชัยบัญชา  


ความสามารถทางการแสดงของ รอง เค้ามูลคดี ส่งผลให้เขาได้เข้าไปคลุกคลีเล่นละครอยู่ที่ไทยทีวี ช่อง 4 สถานีโทรทัศน์แห่งแรกของไทยตั้งแต่ยังเด็ก จากการชักจูงของ สัมพันธ์ พันธ์มณี หัวหน้าแผนกนาฏศิลป์ไทย และเริ่มต้นทำงานที่นั่นเมื่อเรียนจบระดับมัธยมศึกษา ทำหน้าที่เป็นทั้งผู้กำกับเวทีและนักแสดง รวมทั้งได้ฝึกฝนวิชาความรู้จากบุคลากรคนสำคัญของสถานี อาทิ กำธร สุวรรณปิยะศิริ, สมจินต์ ธรรมทัต, สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์  ฯลฯ  

 

หลังจากเริ่มมีชื่อเสียงจากงานละครโทรทัศน์ รอง เค้ามูลคดี ก็เริ่มมีผลงานการแสดงภาพยนตร์อย่างเต็มตัวเป็นเรื่องแรก โดยได้ร่วมงานกับ มิตร ชัยบัญชา อีกครั้ง ในเรื่อง แม่ย่านาง ออกฉายในปี พ.ศ. 2513 นอกจากงานแสดง เขายังสนใจในงานพากย์ภาพยนตร์ ผนวกกับฝีปากอันคล่องแคล่ว ทำให้ จำนง รังสิกุล หัวหน้าฝ่ายจัดรายการของสถานี  มอบหมายให้เขารับหน้าที่เป็นนักพากย์ภาพยนตร์โทรทัศน์ และเพียงไม่นาน ลีลาการพากย์ของเขาก็ไปสะดุดหู ส. อาสนจิดา นักแสดงและผู้กำกับชั้นครู จนชักชวนให้เขาเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เพื่อพากย์เสียงลงภาพยนตร์เป็นครั้งแรก ในเรื่อง เพชรพระอุมา ซึ่ง ส.อาสนจินดากำกับ ร่วมทีมกับนักพากย์หนังชื่อดังในยุคนั้น คือ สมพงศ์ วงศ์รักไทย จุรี โอศิริ และสมจินต์ ธรรมทัต เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2514

 

นับตั้งแต่นั้น รอง เค้ามูลคดี ก็ได้มีบทบาทในวงการภาพยนตร์ ทั้งในฐานะนักแสดงและนักพากย์ควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่อง  ตัวอย่างผลงานการแสดงภาพยนตร์ ได้แก่  ผู้กองยอดรัก (2516),  คืนนี้ไม่มีพระจันทร์ (2519), วิมานไฟ (2521), มนต์รักขนมครก (2523), หลวงตา (2523),  มนต์รักลูกทุ่ง (2525), สัตว์สาวผู้น่ารัก (2525), มหาเฮง (2526), เขยบ้านนอก (2528) ฯลฯ  โดยเขามักได้รับบทตลกอยู่เป็นประจำ จากบุคลิกที่เป็นคนสนุกสนานร่าเริง ซึ่งแตกต่างจากการเป็นนักพากย์ ที่เขาแทบจะผูกขาดการพากย์เสียงพระเอกอันดับ 1 ของวงการในเวลานั้น ทั้ง สมบัติ เมทะนี, กรุง ศรีวิไล, สรพงศ์ ชาตรี ฯลฯ โดยได้รับรางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี สาขานักพากย์ชายยอดเยี่ยมถึง 5 ครั้ง จากเรื่อง  แผลเก่า (2520), คาดเชือก (2527), ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท (2529), คู่กรรม (2531) และ หลงไฟ (2533) นอกจากนี้ เขายังมีผลงานการกำกับภาพยนตร์จากเรื่อง รักต้องโกย (2527)  และ กองร้อยสอยรัก (2532) อีกด้วย

 

รอง เค้ามูลคดี สมรสกับ ปทุมวดี โสภาพรรณ นักร้องและนักแสดงที่คบหาดูใจกันมายาวนานตั้งแต่สมัยวัยรุ่น  ทั้งคู่ถือเป็นคู่ชีวิตที่ได้รับการเคารพนับถืออย่างสูงในวงการบันเทิงไทยปัจจุบัน โดยมีทายาทที่สืบทอดสายเลือดนักแสดงมาโดยตรง คือ ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี




ชมภาพบรรยากาศกิจกรรมลานดารา รอง และ ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี ได้ที่ <<คลิก>>