จารุณี สุขสวัสดิ์

ดาวดวงที่ 15

ชื่อในการแสดง จารุณี สุขสวัสดิ์

ชื่อ-นามสกุลจริง จารุณี สุขสวัสดิ์

วันเกิด 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2505

พิมพ์มือลานดารา 6 กันยายน พ.ศ. 2551


จารุณี มีชื่อเล่นว่า เปิ้ล เกิดที่กรุงเทพมหานคร ในครอบครัวที่ยากจน จึงต้องดิ้นรนต่อสู้ชีวิตมาตั้งแต่ยังเด็ก ๆ ต้องหางานต่าง ๆ พร้อมกับเรียนหนังสือไปด้วย ระหว่างที่กำลังเรียนชั้น ม.ศ.3 อยู่โรงเรียนบางกะปิ ก็ทราบข่าวว่า สีบุญเรืองฟิล์ม เปิดรับสมัครนักแสดงวัยรุ่นเพื่อแสดงเป็นนักเรียนในภาพยนตร์ 35 มม. เรื่อง สวัสดีคุณครู ก็เลยส่งรูปถ่ายไปสมัครและต่อมาพันคำและดาวน้อย สีบุญเรือง ก็เลือกให้แสดงภาพยนตร์ กระทั่งเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2520 ภาพยนตร์เรื่อง สวัสดีคุณครู เข้าฉาย ชื่อของจารุณีก็ถูกกล่าวถึงในฐานะนักแสดงวัยรุ่นคนใหม่ ต่อมาวันที่ 29 กรกฎาคม 2521 ภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ที่จารุณีแสดงเป็นนางเอกเต็มตัวคู่กับ สรพงศ์ ชาตรี เรื่อง รักแล้วรอหน่อย เข้าฉาย จารุณีจึงเป็นนางเอกคนใหม่ที่ถูกจับตามองทันที 


ในขณะที่สีบุญเรืองฟิล์ม เดินแต้มด้วยการสร้างหนังครูต่ออีกเรื่องคือ ครูขาหนูเหงา กาญจนา เมทะนี เจ้าของเมทะนีฟิล์มก็อาศัยความคุ้นเคยกับดาวน้อยขอตัวจารุณีไปรับบท จอย เด็กสาวลูกครึ่งผมสีบรอนซ์หลานรักของอาเดียวในเรื่อง สลักจิต ซึ่งมี สมบัติ เมทะนี กำกับการแสดง ขณะที่ คมน์ อรรฆเดช แห่งโคลีเซี่ยมฟิล์ม ก็ขอตัวจารุณีไปแสดงเป็น นาจา แม้วสาวนักบู๊ ในเรื่อง เสือภูเขา ส่วนไฟว์สตาร์โปรดักชั่น ก็มอบหมายให้ รุจน์ รณภพ กำกับจารุณี ให้เป็น พจมาน พินิตนันท์ เด็กสาวเลือดทรนงจากเรื่อง บ้านทรายทอง ภาพยนตร์ทั้งสามเรื่องที่จารุณีแสดงนี้เข้าฉายในเวลาไล่เลี่ยกัน เริ่มจาก สลักจิต (5 พฤษภาคม 2522) เสือภูเขา (5 ตุลาคม 2522) บ้านทรายทอง (12 มกราคม 2523) ทั้งสามเรื่องต่างเป็นแรงบวก แรงส่งซึ่งกันและกันที่ทำให้แฟนภาพยนตร์ต่างเห็นถึงความสามารถทางการแสดงของจารุณีในบทบาทที่แตกต่างกันจนทำให้จารุณีแจ้งเกิดในวงการภาพยนตร์ได้อย่างงดงาม 


จากนั้นก็เป็นยุคทองของจารุณีเพราะในแต่ละปีมีผลงานภาพยนตร์ที่จารุณีเข้าฉายหลายเรื่อง ที่สำคัญในปี 2523 เช่นเรื่อง พจมาน สว่างวงศ์ (พอเจตน์) ช่างเขาเถอะ (สรพงศ์) แผ่นดินแห่งความรัก (ราวิน) นักเลงตาทิพย์ (สมบัติ) พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ (จตุพล) วัยสวิง (จตุพล) ในปี 2524 เช่น ลูกสาวกำนัน (ทูน) รักข้ามคลอง (สรพงศ์) คุณปู่ซู่ซ่า (ทูน) อาจารย์โกย (ทูน) แม่กาวาง (สรพงศ์) แก้วตาพี่ (ทูน) ซึ่งในปีนี้เองที่จารุณีประสบอุบัติเหตุขับเรือชนต่อหม้อสะพาน ขณะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ลูกสาวกำนัน ส่วนภาพยนตร์ในปี 2525 เช่น สวัสดีไม้เรียว (สรพงศ์) เจ้าสาวของอานนท์ (ไพโรจน์) เทพธิดาโรงงาน (เกรียงไกร) ปริศนา (เกรียงไกร) ดาวพระเสาร์ (สรพงศ์) ในปี 2526 เช่น แม่ดอกกระถิน (สรพงศ์) สามอนงค์ (เกรียงไกร) มหาเฮง (ทูน) นิจ (สรพงศ์) มายาพิศวาส (เกรียงไกร) บ้านน้อยกลางดง (สรพงศ์) ในปี 2527 เช่น แรงอธิษฐาน (เกรียงไกร) เลดี้ฝรั่งดอง (พร้อมพงศ์) ลูกทุ่งพเนจร (สายัณห์) ลูกสาวคนใหม่ (ทูน) ปี 2528 เช่น ผู้การเรือเร่ (สรพงศ์) หลานสาวเจ้าสัว (พร้อมพงศ์) รัตนาวดี (เกรียงไกร) หมอบ้านนอก (ปิยะ) วัยเรียนเพี้ยนรัก (พร้อมพงศ์) ปี 2529 เช่น โกยมหาสนุก (ยุรนันท์) วันนี้ยังมีรัก (ดิลก) ราชินีดอกหญ้า (จารุณี) เครื่องแบบสีขาว (พร้อมพงศ์) ชมพู่แก้มแหม่ม (ยุรนันท์) ซึ่งช่วงนี้เองที่จารุณีเริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพอันเนื่องเคยได้รับอุบัติเหตุระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์ ทำให้ต้องรับงานภาพยนตร์น้อยลง ทำให้ปี 2530 มีภาพยนตร์เข้าฉายเพียง 5 เรื่องและมาเพิ่มขึ้นเป็น 12 เรื่องในปี 2531 ก่อนที่จะหยุดยาวเพื่อพักรักษาตัวและกลับมารับงานแสดงภาพยนตร์อีกครั้งในปลายปี 2537 และแสดงภาพยนตร์ของ บัณฑิต ฤทธิ์ถกล เรื่อง บุญชู 8 เพื่อเธอ พร้อม ๆ กับได้รับรางวัลตุ๊กตาทองดาราประกอบหญิงไปในปีนั้น


จารุณี เคยได้รับรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ ดารานำหญิงยอดเยี่ยม จากเรื่อง ช่างเขาเถอะ ปี 2523 ปี 2525 จากเรื่อง สวัสดีไม้เรียว เคยได้รับรางวัลตุ๊กตาทองดารานำหญิง จากเรื่อง ปริศนา ปี 2525 ปี 2526 จากเรื่อง มายาพิศวาส