การชกมวยชิงแชมเปี้ยนโลกระหว่าง โผน กิ่งเพชร-ปาสคาล เปเรส พ.ศ. ๒๕๐๓ เวทีมวยลุมพินี กรุงเทพฯ

๒๕๐๓

ผู้สร้าง สำนักงานสรรพสิริ (สรรพสิริ วิรยศิริ)

 

มวยกับคนไทยเป็นของคู่กัน เป็นกีฬาที่ขึ้นหน้าขึ้นตาหรือเป็นที่เชิดหน้าชูตาที่สุด แต่สำหรับมวยฝรั่งหรือมวยสากล ซึ่งชกด้วยกำปั้นอย่างเดียวไม่มีเตะเข่าศอกนั้น คนไทยก็มานิยมดูและหัดและเป็นอาชีพสำหรับเด็กหนุ่มนักสู้ แม้ไม่มากเท่ามวยไทยที่เป็นของพื้นเมือง และมวยสากลมีเวทีชกทั่วโลก มีสถาบันรับรองและจัดแข่งขันให้ตำแหน่งเป็นแชมป์เปี้ยนโลก มีมงกุฎซึ่งที่จริงคือเข็มขัดคาดเอวให้ มีเกียรติยศชื่อเสียงและค่าตัวสูงลิ่ว จึงมีเด็กหนุ่มนักมวยไทยที่เข็นตัวเองด้วยความใฝ่ฝันและที่ได้รับการเข็นหรือสนับสนุนจากเจ้าของค่ายมวย ผู้อุปถัมภ์ ไปจนกระทั่งนักการเมือง ผู้นำประเทศ และประชาชน กลายเป็นเป้าหมายอย่างหนึ่งของชาติในการมีนักมวยแชมป์เปี้ยนโลกให้ได้สักคน

 

นักมวยไทยที่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชาติและกล่าวได้ว่าชาวไทยฝากความหวังไว้กับเขาว่าจะชิงตำแหน่งหรือบัลลังแชมเปี้ยนโลกมวยสากลคนแรก คือ จำเริญ ทรงกิตติรัตน์ ซึ่งมีโอกาสขึ้นชกชิงตำแหน่งแชมเปี้ยนโลกถึงสามครั้งในช่วงเวลาสิบปีหลังสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ชาวไทยต้องผิดหวังทั้งสามครั้ง จากนั้นจึงมาถึง โผน กิ่งเพชร นักมวยเจ้าสำอาง ซึ่งพลิกคำสบประมาท เพราะไม่ได้เป็นผู้ที่ถูกคาดหวัง แต่เขาทำสำเร็จเมื่อได้ขึ้นชกชิงตำแหน่งแชมเปี้ยนโลกมวยสากลรุ่นฟลายเวธ ซึ่งเป็นรุ่นเล็กที่สุดของโลกในเวลานั้น โดยเอาชนะคะแนนในการชก ๑๕ ยก กับ ปาสกาล เปเรซ เจ้าของแชมเปี้ยนชาวอาเจนตินา เมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๐๓ ที่เวทีลุมพินี กรุงเทพฯ

 

การชกวันนั้น ไม่มีการถ่ายทอดสดทางวิทยุหรือโทรทัศน์ แต่มีการถ่ายภาพยนตร์บันทึกการชกไว้โดยตลอด ด้วยฟิล์ม ๑๖ มิลิลิเมตร ขาว-ดำ โดยสำนักงานสรรพสิริ ซึ่งเป็นของสรรพสิริ วิรยศิริ ผู้ประกาศข่าวและผู้สื่อข่าวของสถานีไทยโทรทัศน์ ช่อง ๔ การชกยืดเยื้อจนครบ ๑๕ ยก และตัดสินด้วยคะแนน ซึ่งโผนได้รับการชูมือ ท่ามกลางความดีใจสุด ๆ ของชาวไทย หลังจากนั้นภาพยนตร์นี้ได้รับการนำออกฉายตามโรงภาพยนตร์ในกรุงเทพ ฯ และเดินสายไปทั่วประเทศ

 

หอภาพยนตร์แห่งชาติ ได้รับมอบฟิล์มภาพยนตร์นี้จาก มณฑา สีดอกบวบ ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของโผน ซึ่งมิใช่แต่ฟิล์มภาพยนตร์การชกครั้งประวัติศาสตร์นี้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงฟิล์มการชกป้องกันตำแหน่งและการชิงตำแหน่งกลับคืนอีกทุกครั้ง จนครั้งที่แพ้เสียตำแหน่งครั้งสุดท้าย ภรรยาของโผนเล่าว่า โผนเป็นเจ้าของและเป็นผู้ดูแลเก็บรักษาฟิล์มการชกของเขาไว้อย่างดี ด้วยความหวงแหนที่สุด เพราะเขาเห็นว่า ฟิล์มภาพยนตร์เหล่านี้คือประจักษ์พยานแห่งฝีไม้ลายมืออันเป็นเลิศของเขา อย่างที่ชอบเรียกกันว่าทางเทวดาหรือขั้นเทพ หากไม่มีภาพยนตร์เหล่านี้ ก็จะไม่มีใครประจักษ์ในความสามารถของเขาและวันหนึ่งโลกจะลืม

 

ภาพยนตร์นี้ โดยเฉพาะม้วนที่บันทึกการชกครั้งประวัติศาสตร์ของชาติ จึงเป็นการบันทึกความทรงจำครั้งหนึ่งของชาติ ในชั่วขณะหรือวาระแห่งความปีติ ความฮึกฮิม และกระแสความสุขร่วมกันของคนไทย ซึ่งไม่อาจถ่ายทอดได้ด้วยคำพูดใด ๆ 

มรดกภาพยนตร์ของชาติ

ดูทั้งหมด

Goal Club เกมล้มโต๊ะ

ฟิล์ม 35 มม. / สี /เสียง / 98 นาทีวันที่ออกฉาย               27 เมษายน 2544บริษัทสร้าง      &nb...

อ่านรายละเอียด

สาย สีมา นักสู้สามัญชน

ฟิล์ม 35 มม. / สี / พากย์ / 100 นาทีวันที่ออกฉาย      27 มิถุนายน 2524บริษัทสร้าง    พิฆเณศภาพยนตร์ผู้อำนวยการสร้าง ...

อ่านรายละเอียด

วิมานดารา

ฟิล์ม 35 มม. / สี / เสียง /  141 นาทีวันที่ออกฉาย 19 มกราคม 2517บริษัทสร้าง            เทพชัยภาพยนตร์ผู้กำกับ&nbs...

อ่านรายละเอียด

ทอง

ฟิล์ม 35 มม. / สี / เสียง / 113 นาทีฉายครั้งแรก               22 ธันวาคม 2516บริษัทสร้าง   ...

อ่านรายละเอียด