พ.ศ. ๒๕๑๔
ความยาว ๒๘.๑๕ นาที
ฟิล์ม ๑๖ มม. / สี / เสียง
อำนวยการสร้าง สำนักข่าวสารอเมริกัน กรุงเทพฯ
ผู้สร้าง เทพพนมภาพยนตร์
ภาพยนตร์สารคดีพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้รับการสร้างขึ้นในวาระที่ทรงครองสิริราชสมบัติ
ครบ ๒๕ ปี ในปี ๒๕๑๔ สร้างในนาม
เทพพนมภาพยนตร์ โดยสำนักข่าวสารอเมริกัน กรุงเทพ ฯ เสียงผู้บรรยายภาษาไทย
ชื่อภาษาอังกฤษของภาพยนตร์คือ King’s
Activities แต่ชื่อไทย คือ จาริกานุสรณ์ เป็นการนำภาพยนตร์บันทึกเหตุการณ์พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เมื่อครั้งที่เสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกาเป็นทางการครั้งแรก
หลังจากครองราชย์สมบัติ คือเป็นเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อปี ๒๕๐๓
ซึ่งเป็นการเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถและพระเจ้าลูกยาเธอและพระเจ้าลูกเธอทุกพระองค์
เป็นการเสด็จเยือนสหรัฐอเมริกาที่อยู่ในความทรงจำของประชาชนชาวไทยและสหรัฐอเมริกาตลอดมา
ภาพยนตร์นำเสนอการเสด็จเยือนครั้งนี้เพื่อย้ำให้เห็นความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและลึกซึ้งระหว่างประมุขและประชาชนของสองประเทศ
โดยเฉพาะการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์แรกที่ประสูติบนแผ่นดินสหรัฐอเมริกา
การเสด็จเยือนสหรัฐอเมริกาครั้งนี้
นอกจากเพื่อเป็นการเจริญพระราชไมตรีกับสหรัฐอเมริกาแล้ว
ยังทรงมีพระราชประสงค์ที่จะเสด็จ ฯ ทอดพระเนตรกิจการและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนอเมริกันด้วย
และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการเสด็จ ฯ เยือนสถานที่พระราชสมภพของพระองค์ คือ
โรงพยาบาลเมานท์ ออเบิร์น ณ เมืองบอสตัน
ภาพยนตร์เริ่มต้นที่การเสด็จ ฯ
ถึงหมู่เกาะฮาวาย ณ เมืองโฮโนลูลู เมืองหลวงของมลรัฐฮาวาย
ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จถึงสหรัฐอเมริกา
มีรัฐพิธีต้อนรับอย่างสมพระเกียรติ ทรงทอดพระเนตรกิจการต่าง ๆ
บนหมู่เกาะฮาวาย ก่อนจะเสด็จ ฯ
ต่อไปยังเมืองลอสแอนเจลิส ซึ่งได้เสด็จ ฯ
ทอดพระเนตรโรงถ่ายภาพยนตร์ของบริษัทภาพยนตร์เดซิลู (Desilu Studios) ซึ่งกำลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Facts of Life (1960) โดยมี บ๊อบ โฮป (Bob Hope) และ ลูซิลล์ บอลล์ (Lucille
Ball) ดารานักแสดงนำของภาพยนตร์เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท
วันต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถและพระเจ้าลูกยาเธอ พระเจ้าลูกเธอทุกพระองค์เสด็จฯ
ยังสวนสนุกดิสนีย์ แลนด์ โดยวอลท์ ดิสนีย์
เป็นผู้นำเสด็จยังส่วนต่าง ๆ
ต่อมา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯ
กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐอเมริกา
โดยประธานาธิบดี ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ (Dwight D. Eisenhower)
เฝ้ารับเสด็จ
เหตุการณ์สำคัญ คือ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถได้เสด็จ ฯ
ยังรัฐสภาคองเกรส โดยทรงมีกระแสพระราชดำรัสปราศรัยต่อสมาชิกรัฐสภาเป็นภาษาอังกฤษ
ตอนหนึ่งมีความว่า “ข้าพเจ้ามีความปรารถนามานานแล้วที่จะชมและเรียนรู้เรื่องประเทศของท่านให้มากยิ่งขึ้น
เมื่อข้าพเจ้าได้ยินกิตติศัพท์เรื่องการไร้ขันติธรรมและการบีบบังคับในหลายต่อหลายส่วนของโลก
ข้าพเจ้าก็ต้องการจะทราบว่าพลเมืองจำนวนนับล้านที่มีเผ่าพันธุ์ขนบประเพณีและการถือศาสนาต่าง
ๆ กันในประเทศนี้สามารถอยู่ร่วมกันโดยเสรี
ผาสุขและต่างถ้อยทีถ้อยอาศัยกันได้อย่างไร
ชาวอเมริกันต้องการช่วยเหลือให้ชนชาวไทยลุล่วงไปสู่จุดมุ่งหมายด้วยความพากเพียรของตนเอง
อันที่จริงมีพระพุทธภาษิตอยู่ข้อหนึ่งที่กล่าวว่าตนย่อมเป็นที่พึ่งของตนเรามีความซาบซึ้งรู้คุณในความเอื้อเฟื้อช่วยเหลือจากชาวอเมริกันแต่เรามุ่งมั่นว่าวันหนึ่งเราจะดำเนินไปได้เองโดยปราศจากความช่วยเหลือนี้
ในศตวรรษปัจจุบันนี้เท่านั้นที่เราได้เห็นมหาประเทศใหญ่ทางการทหารประเทศหนึ่งซึ่งละเว้นจากการสงครามนอกจากเพื่อป้องกันสิทธิ์และสันติภาพเท่านั้น
ข้าพเจ้าหมายถึงสหรัฐอเมริกา เนื่องด้วยความตึงเครียดของโลกในปัจจุบันและความรู้สึกไม่แน่นอนที่อาจเห็นได้ทุก
ๆ แห่ง จึงเป็นความรู้สึกจริงใจของข้าพเจ้าว่า
บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่สมควรจัดให้มีการร่วมมือใกล้ชิดยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ทั้งนี้จะแสดงให้โลกเห็นเด่นชัดว่าเราเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในเจตจำนงและความเชื่อมั่นและอาจจะนำไปสู่สิ่งเดียวเท่านั้นคือคุณประโยชน์ร่วมกัน
ขอขอบคุณที่ได้กรุณาสดับฟัง”
ต่อมา ได้เสด็จ ฯ
ยังเมืองนิวยอร์ก ซึ่งมีประชาชนชาวนิวยอร์กมาถวายการต้อนรับอย่างเนืองแน่น
โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับรถยนต์พระที่นั่งเปิดประทุน
พร้อมกับนายกเทศมนตรีของเมืองในขบวนแห่ Ticker Tape ไปตามถนนบรอดเวย์
ซึ่งเป็นพิธีการต้อนรับแขกเมืองของชาวนิวยอร์ก
โดยประชาชนบนอาคารสูงสองฝั่งถนนโปรยแถบกระดาษ สร้างความตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง จากนั้นได้เสด็จฯทอดพระเนตรตามสถานที่สำคัญต่าง
ๆ ในเมืองนิวยอร์ก รวมทั้งตึกเอ็มไพร์สเตทและย่านวอลล์สตรีท
หลังจากเสด็จ ฯ เยือนนิวยอร์ก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จ ฯ
ยังเมืองบอสตัน ที่ซึ่งพระองค์ทรงตั้งพระราชหฤทัยที่จะเสด็จ ฯ มา
ในการเยือนสหรัฐอเมริกาครั้งนี้ เนื่องจากเป็นเมืองซึ่งเป็นสถานที่พระราชสมภพของพระองค์และเป็นเมืองที่ตั้งของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ซึ่งสมเด็จพระราชบิดาทรงเคยศึกษาอยู่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและทรงพบกับ ดอกเตอร์
ดับบลิว.
สจ๊วต วิตต์มอร์ (Dr. W.S. Whittemore) นายแพทย์ผู้ถวายการประสูติ
ซึ่งทรงตรัสว่าเป็นมิตรคนแรก ก่อนจะเสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงพยาบาลเมานท์ออเบิร์น
(Mount Auburn Hospital) เพื่อทอดพระเนตรห้องที่มีพระราชสมภพด้วยความสำราญพระราชหฤทัย
ซึ่งภาพยนตร์บรรยายว่าเป็นการเสด็จ ฯ เพื่อพระราชอารมณ์อันถาวร
ต่อมาเป็นการเสด็จ ฯ
เยือนเมืองน็อกซ์วิลล์ มลรัฐเทนเนสซี่
เพื่อทอดพระเนตรโครงการทางด้านชลประทานและพลังงาน และเมืองโคโลราโดสปริงส์
มลรัฐโคโลราโด
เพื่อทรงสำราญพระอิริยาบถและทอดพระเนตรชีวิตความเป็นอยู่กับทัศนียภาพต่าง ๆ
จากนั้นได้เสด็จ ฯ ต่อไปยังเมืองซานฟรานซิสโก
ซึ่งที่นี่ได้พระราชทานสัมภาษณ์แก่นักข่าวถึงการเสด็จ ฯ
เยือนสหรัฐอเมริกาในครั้งนี้
ภาพยนตร์สารคดี จาริกานุสรณ์
นับเป็นภาพยนตร์บันทึกเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา
ทั้งยังเป็นหลักฐานความทรงจำอันถาวรของสองประเทศ